GREENLAND นาทีระทึกวันสิ้นโลก จุดจบของมนุษยชาติจะเป็นอย่างไร?

GREENLAND นาทีระทึกวันสิ้นโลก จุดจบของมนุษยชาติจะเป็นอย่างไร?

GREENLAND นาทีระทึกวันสิ้นโลก จุดจบของมนุษยชาติจะเป็นอย่างไร? เมื่อดาวหางขนาดมหึมา ที่ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ กำลังจะพุ่งเข้าชนโลกอีกครั้ง ทุกสิ่งจะต้องสูญพันธุ์ แม้แต่แบคทีเรีย หากใครอ่าน greenland 2020 เรื่องย่อ มาแล้วยังไม่หนำใจ มาฟังสปอย หนังgreenland กันเลย ว่าจะสนุกแค่ไหน?

GREENLAND

เริ่มเรื่องด้วยพระเอกของเรา หรือ จอห์น กราริตี้ John Garrity เขาเป็นหัวหน้าวิศวกรก่อสร้าง กำลังคุมงานก่อสร้างอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเขากำลัง กระวนกระวายใจอยู่ เขากำลังดูรูปเมียและลูกของเขา ผู้ช่วยของพระเอกเลยถามขึ้นมาว่านายมีนัดหรือเปล่าถ้าอย่างนั้นไปก่อนได้เลยนะ ฉันจะดูแลทางนี้เอง จากนั้นพระเอกก็ได้ขับรถออกมาจากที่ทำงาน เพื่อไปที่ไหนสักแห่ง ระหว่างนั้นก็มีเสียงวิทยุรายงานเกี่ยวกับ กลุ่มดาวหางที่มีชื่อว่า คลาร์ก ในรายงาน บอกว่าดาวหางคลาร์ก เป็นดาวหางที่ใกล้โลกมากๆ  

จะสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ ดูเหมือนจะเป็นข่าวใหญ่ไปทั่ว เพราะทุกช่องรายงานข่าวนี้กันหมด เขาขับรถมาจอดที่บ้านหลังหนึ่ง และนี่ก็คือบ้านของเขา และนางเอกของเรื่อง ก่อนหน้านี้ทั้งคู่แยกทางกัน เพราะพระเอกเคยนอกใจทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน โดยพระเอกย้ายกลับมาที่นี่ เพื่อปรับความเข้าใจ ต่อมาอีกวัน ครอบครัวของพระเอกก็ได้ชวนเพื่อนบ้านมาปาร์ตี้ ในระหว่างที่พระเอกกำลังทำครัวอยู่นั้น ก็ได้ดูข่าวไปด้วย ในรายงานบอกว่าชิ้นส่วนของดาวหางคลาร์ก

บางส่วนกำลังจะตกสู่ชั้นบรรยากาศโลก แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เมื่อมันตกสู่ชั้นบรรยากาศโลก มันก็จะถูกเผาไหม้สลายไป จากนั้นนางเอกก็นึกขึ้นได้ว่า เบียร์กับไวน์ที่เหลืออยู่ คงไม่พอแน่ๆ แต่เธอต้องแต่งตัวเพื่อรับแขก ก็เลยขอให้พระเอกเป็นคนออกไปซื้อแทนพระเอกก็ออกไปซื้อของกับนาธาน ขณะที่ลงรถพระเอกก็ได้สังเกตเห็นเครื่องบินฝูงใหญ่ กำลังบินไปที่ไหนสักแห่ง สร้างความสงสัยให้กับ 2 พ่อลูกไม่น้อย ระหว่างนั้นนาธาน ชี้ให้เห็นว่านั่นดาวหางคลาร์ก ที่อยู่บนฟ้า มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

แล้วระหว่างที่ซื้อของอยู่นั้น ก็มีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ของพระเอก ในข้อความนั้นก็บอกว่า เป็นข้อความจากประธานาธิบดี พระเอกถึงกับงง เพราะคนรอบข้างของเขา ไม่เห็นได้รับข้อความอะไรเลย จากนั้นก็มีโทรศัพท์ดังขึ้น จากกระทรวงความมั่นคงโทรเข้ามาหาเขา พอพระเอกรับสาย ก็มีเสียงบอกว่าให้พระเอกและเมียและลูกไปที่ศูนย์พักพิงฉุกเฉิน โดยให้นำกระเป๋าไปใบเดียวเท่านั้น พระเอกก็ถึงกับงงเข้าไปใหญ่ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ก็เลยรีบพานาธานกลับบ้าน

ระหว่างทางนั้น ก็ได้เห็นขบวนรถทหารกำลังจะขับไปที่ไหนสักที่ ยิ่งทำให้พระเอกรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเท่าไหร่ เรื่องนี้มันไม่ปกติแล้ว พอกลับมาถึงบ้าน เพื่อนบ้านที่พระเอกชวนมาปาร์ตี้ ก็นั่งดูข่าวถ่ายทอดสด ดาวห่างคลาร์กอย่างใจจดใจจ่อ พระเอกก็ไม่สนใจ แล้วก็เดินเข้าไปในครัว เพื่อพูดคุยเรื่องที่เขาได้รับข้อความจากประธานาธิบดี เรื่องฝูงเครื่องบิน และรถทหารให้กับนางเอกฟัง นางเอกก็ดูเหมือนว่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

ในขณะที่พูดคุยกันอยู่นั้น เพื่อนบ้านก็ได้เรียกพระเอกให้ออกมาดูการถ่ายทอดสดเดี๋ยวนี้ ดาวหางที่ควรจะสลายไปเมื่อเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ กลับตกลงมากระทบพื้นโลกอย่างจัง ทำให้เสียหายเป็นวงกว้าง ทุกคนในบ้านก็เริ่มกลัวขึ้นมา ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย จากนั้นก็มีเสียงข้อความเข้ามาในมือถือของพระเอก เพื่อนบ้านของพระเอกก็งง ว่าทำไมพระเอกเป็นคนเดียว ที่ได้รับข้อความจากนั้น ทีวีก็เปลี่ยนเป็นช่องอื่น แล้วก็มีข้อความขึ้นมาว่า

ครอบครัวของพระเอกถูกรับเลือกให้ไปที่ศูนย์พักพิงฉุกเฉิน

ให้นำกระเป๋าไปได้แค่หนึ่งใบ และห้ามพาใครไปเพิ่ม โดยให้ไปขึ้นเครื่องที่ฐานทัพอากาศที่อยู่ไม่ไกลมากนัก เวลา 3 ทุ่ม 45 นาที ก่อนที่ระบบจะส่งคิวอาร์โค้ด ยืนยันตัวตนให้พระเอกอีกทีหนึ่ง พระเอกก็ไม่รีรอรีบเก็บข้าวของ แล้วก็ไม่ลืมที่จะเอาอีซูรีนของนาธานไปด้วย

ให้นำกระเป๋าไปได้แค่หนึ่งใบ และห้ามพาใครไปเพิ่ม โดยให้ไปขึ้นเครื่องที่ฐานทัพอากาศที่อยู่ไม่ไกลมากนัก เวลา 3 ทุ่ม 45 นาที ก่อนที่ระบบจะส่งคิวอาร์โค้ด ยืนยันตัวตนให้พระเอกอีกทีนึง พระเอกก็ไม่รีรอรีบเก็บข้าวของ แล้วก็ไม่ลืมที่จะเอาอีซูรีนของนาธานไปด้วย

ซึ่งจะใช้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเพราะลูกชายของเขาป่วยเป็นเบาหวาน จากนั้นพวกเขาก็รีบออกไปจากบ้านทันทีระหว่างนั้นก็มีเพื่อนบ้านมาขอให้พระเอกโทรบอกด้วยถ้ารู้ที่ปลอดภัยอยู่ตรงไหนพระเอกก็รับปาก ส่วนเพื่อนบ้านอีกคนขอให้เอาลูกสาวของเขาไปด้วย แต่พระเอกก็บอกว่า คงจะไม่ได้ถึงเขาจะพาไปด้วย สุดท้ายพอถึงด่านก็ต้องโดนแยกออกไปอยู่ดี

ดูเหมือนตอนนี้ทุกคนจะสิ้นหวังกันหมด ระหว่างนั้นพระเอกก็ยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมพวกเขาถึงได้รับการคัดเลือก ขับรถไปได้ไม่นานพวกพระเอกก็มาเจอกับรถติดยาวเหยียด เวลายิ่งน้อยลงไปทุกที พระเอกก็เลยรีบขับรถย้อนศรไปทางอื่นแทน ระหว่างทางนั้น นาธานก็รู้สึกหนาว ก็เลยเอาผ้าห่มในกระเป๋ามาห่ม

ตอนนี้พระเอกขับรถมาถึงฐานทัพแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีคนไม่น้อยเลยทีเดียว ที่รู้เรื่องการอพยพครั้งนี้ พระเอกได้ฝ่าฝูงชนเพื่อไปแสดงตัวว่าเขาเป็นคนที่ถูกคัดเลือก ทหารก็ได้ทำการสแกนคิวอาร์โค้ด และให้พวกพระเอกเข้าไป ระหว่างนั้น ทุกคนก็ต้องติดสายรัดข้อมือด้วย เพื่อเป็นหลักฐานว่า เป็นผู้ถูกรับเลือก จากนั้นทหารก็สั่งให้เอาของทุกอย่าง ใส่ในกระเป๋าที่ทหารแจกให้หนึ่งใบ ส่วนที่เหลือให้เอาทิ้งไว้ที่นี่ เพื่อที่ไม่ให้เครื่องบินรับน้ำหนักเกินไปนั่นเอง

ระหว่างที่นางเอกกำลังย้ายของไปใส่กระเป๋าของทหาร ก็ได้รู้ว่ายาของนาธานหายไป ทั้งคู่ก็เลยคิดขึ้นได้ว่า ต้องเป็นจังหวะที่นาธานเอาผ้าห่มออกจากกระเป๋าแน่ๆ พระเอกก็เลยได้บอกกับนางเอกว่า พาลูกขึ้นเครื่องไปก่อน เดี๋ยวผมจะไปเอายาเอง โดยให้นางเอกโทรบอกเขาอีกที ตอนรู้หมายเลขเครื่อง ผ่านไปสักพักระหว่างที่พระเอกกำลังกลับไปเอายาอยู่นั้น นางเอกก็เดินไปถามทหารว่า ตอนนี้พระเอกเดินไปเอายาอยู่ พอจะเช็กได้ไหมว่า เราจะได้ขึ้นเครื่องลำเดียวกันกับพระเอกหรือไม่

พอทหารได้ยินแบบนั้น ก็พานางเอกและลูกแยกตัวไปหาหัวหน้าทหารอีกคน ทหารผู้หญิงบอกกับนางเอกว่า คนที่มีลูกหรือหลาน จะไม่ได้รับการอนุญาตให้ขึ้นเครื่อง นางเอกก็เลยขอร้อง ให้ทหารทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่นางเอกก็พูดกับทหารว่า ถ้าเป็นครอบครัวของคุณ คุณจะทำยังไง

ตอนนี้นางเอกเริ่มสติแตก สุดท้ายนางเอกก็ไม่ได้ขึ้นเครื่อง เพราะทิ้งลูกไม่ได้นั้นเอง ก็เลยถูกทหารพาออกจากฐานทัพไป ส่วนพระเอกที่ได้ยามาแล้ว ก็เดินหานางเอกจนทั่ว จะโทรศัพท์ก็ดันไม่มีสัญญาณ แต่ด้วยเครื่องบินที่กำลังจะบินขึ้นแล้ว พระเอกก็ไม่มีทางเลือกเลยต้องขึ้นไปก่อน แต่ในระหว่างที่พระเอกนั่งอยู่ คนที่อยู่ข้างๆ ก็เลยถามพระเอกว่า เขาขึ้นเครื่องมาได้ยังไง ในเมื่อพระเอกเป็นคนป่วย และมองไปที่มือของพระเอกที่ถือยาอยู่ พระเอกบอกว่ามันเป็นของลูกชายของเขา

และตอนนี้พระเอกก็คงจะเดาได้ว่า ลูกของเขาคงถูกห้ามไม่ให้ขึ้นเครื่องแน่ๆ ก็เลยขอลงจากเครื่องบิน ซึ่งก็เป็นความโชคดีของพระเอก เพราะคนที่ไม่ได้ถูกเลือก ก็บุกเข้ามาพอดี พวกทหารและผู้บุกรุกก็เกิดการปะทะกัน ทหารที่กำลังเติมน้ำมัน ก็โดนยิงจากด้านหลัง จากนั้นน้ำมันก็ไหลลงสู่พื้น

ถูกประกายไฟจนทำให้เครื่องบินทั้งลำเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง พระเอกจึงวิ่งย้อนกลับไปตรงที่เขาเปลี่ยนกระเป๋า เขาถามทหารที่ประจำอยู่ตรงนั้นว่า เห็นนางเอกไหม โชคดีที่ทหารคนนั้นจำพวกพระเอกได้ เลยบอกไปว่านางเอกกับลูกไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่อง และก็ออกจากค่ายไปแล้ว

GREENLAND

ภาพตัดมาที่นางเอกและลูก นาธานอาการไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะน้ำตาลในเลือดสูง และยาที่มีก็อยู่กับพระเอกทั้งหมด นางเอกก็เลยตัดสินใจพานาธานเดินหาร้านขายยาไปเรื่อยๆ และก็ไม่ลืมที่จะเขียนโน้ตติดกระจกรถไว้ว่า เธอจะไปบ้านพ่อ เผื่อพระเอกที่ยังไม่ขึ้นเครื่องจะย้อนกลับมาจะได้รู้ จากนั้นนางเอกก็เดินไปเรื่อยๆ จนไปเจอ Supermarket ซึ่งข้างในก็เกิดการจลาจล คนแห่แย่งชิงสิ่งของกัน เอาเป็นเอาตาย และก็ดูไม่น่าปลอดภัย

แต่ตอนนี้นาธานก็อาการแย่ลงเรื่อยๆ นางเอกก็เลยจำเป็นที่จะต้องเข้าไปใน ระหว่างที่กำลังอยู่ในร้าน ก็มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน พร้อมยิงปืนขู่ ไล่ให้ทุกคนออกไป มีคนโดนลูกหลงตายในเหตุการณ์นี้ด้วย นางเอกก็ตกใจมาก ก็เลยรีบออกไปพร้อมยาของนาธานอีกนิดหน่อย พอมาจากร้าน นางเอกก็เห็นรถคันหนึ่ง ที่กำลังจอดอยู่พอดี ก็เลยเข้าไปขอติดรถไปด้วย

ซึ่งเป็นทางเดียวกัน กับทางที่นางเอกกำลังจะไปบ้านพ่อ ในระหว่างทาง 2 ผัวเมีย ก็เอาแซนด์วิชให้กับนาธานกิน แล้วก็ชวนคุยว่า ทำไมนางเอกกับลูกถึงมาเดินนอกเมืองตามลำพัง นางเอกก็เลยเล่าให้ฟังว่า พลัดหลงกับพระเอก เพราะนาธานป่วยจึงไม่ได้ขึ้นเครื่อง ตอนนี้ 2 ผัวเมียรู้แล้ว ว่าครอบครัวของนางเอก คือผู้ที่ถูกรับเลือก

ตัดภาพมาที่พระเอก ก็ขึ้นไปหาสัญญาณโทรศัพท์บนตึก เพื่อจะโทรหานางเอก คราวนี้มีสัญญาณแต่สัญญาณก็ขาดๆหายๆ คุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ก็พอทำให้นางเอกรู้ว่า พระเอกยังไม่ได้ขึ้นเครื่อง ระหว่างที่พระเอกกำลังเดินไปโบกรถเรื่อยๆ ก็เจอรถคันหนึ่ง เขากำลังจะไปที่แคนาดา ซึ่งเป็นทางผ่านที่จะไปบ้านพ่อของนางเอกพอดี พระเอกเลยขอติดรถไปด้วย พอขึ้นมาได้สักพัก คนที่นั่งข้างๆพระเอก ก็เลยถามว่า พระเอกทำงานอะไร แล้วเขาก็มองไปที่สายรัดข้อมือ

แล้วก็พูดขึ้นมาว่า พี่สาวของเขาก็ได้เหมือนกัน เพราะพี่สาวของเขาเป็นหมอ พระเอกก็พอจะเข้าใจแล้วว่า ที่เขาถูกเลือกเป็นเพราะอาชีพที่เขาทำ ก็คือวิศวะกรโครงสร้างนั่นเอง ซึ่งความรู้ที่พระเอกมี มีความหมายต่อการสร้างโลกขึ้นมาใหม่ ระหว่างที่คุยกัน คนที่พระเอกคุยด้วยก็บอกว่า พวกเขารู้จักคนขับเครื่องบิน ที่จะขับไปที่สถานที่พักพิง และรถที่พระเอกนั่งอยู่นั้น ก็กำลังจะไปขึ้นเครื่องที่แคนาดา เพื่อบินไปศูนย์พักพิงที่เป็นความลับแห่งหนึ่งได้ ซึ่งสถานที่แห่งนั้นก็คือ “ กรีนแลนด์ “นั่นเอง

 

จอห์นที่ได้ยินแบบนั้น จึงเปิดประเด็นแล้วถามขึ้นมาอีกว่า

แล้วคนที่ไม่มีสายรัดข้อมือล่ะ จะเข้าได้อย่างไร เพราะสถานที่แห่งนั้น จะเข้าได้เฉพาะคนที่มีสายรัดข้อมือเท่านั้น ก็เลยบอกพระเอกว่า เรื่องนี้เอาไว้ลองไปเสี่ยงดูข้างหน้าแล้วกัน ก็เลยชวนให้พระเอกไปด้วยกัน แต่จอห์นก็ปฏิเสธ เพราะเขาต้องไปตามหาภรรยาและลูกก่อน กลับมาที่นางเอก ตอนนี้ท่าทีของลุงคนนั้นเปลี่ยนไป อยู่ดีๆเขาก็พูดจาแปลกๆ และเขาก็จอดรถและพยายามลากนางเอก

และพยายามแย่งดึงเอาสายรัดข้อมือ ตอนแรกเหมือนฝ่ายของเมียลุงคนนี้ จะไม่ยอมให้ความร่วมมือ แต่สุดท้ายก็ทำอยู่ดี แล้วลุงคนนั้นก็พานาธานไปด้วย เพราะการจะสวมรอยเป็นพ่อแม่ของนาธาน ตอนนี้นางเอกก็ถึงกับสติแตก ไม่รู้จะทำยังไงต่อ โบกรถคันไหนก็ไม่มีใครยอมจอด ส่วนพระเอกตอนนี้ ก็เหมือนจะมีปัญหาเหมือนกัน ชาย 2 คน ที่นั่งตรงข้ามพระเอก เห็นว่าพระเอกมีสายรัดข้อมือ

และมันก็ขู่ให้พระเอกถอดสายรัดข้อมือออกมาให้กับพวกมัน แต่พระเอกก็ไม่ยอม ก็เลยเกิดการต่อสู้เกิดขึ้น ระหว่างการต่อสู้อยู่นั้น รถก็ได้โครงเครงไปมา จนสุดท้าย รถของพวกพระเอกก็ชนกับรถอีกคันหนึ่งเข้า พวกพระเอกก็กระเด็นออกนอกรถ แต่พวก 2 คนนั้น ก็อึดมากๆ มันก็ลุกขึ้นมาสู้กับพระเอกต่อ พระเอกคว้าค้อนและแกว่งไปมา จนสุดท้ายก็แกว่งไปโดนหัวของคนร้ายหนึ่งคนจนตายคาที่ส่วนอีกคนก็เริ่มกลัว แล้วก็วิ่งหนีไป จากนั้นพระเอกก็ได้เดินไปหาคนที่พระเอกคุยด้วย แต่เขาตายตั้งแต่รถคว่ำแล้ว

ตัดภาพมาที่นางเอก ที่กำลังเดินอยู่บนถนน ก็มีรถแวะถามว่านางเอกจะไปไหน เผื่อจะได้ไปส่ง โชคดีที่พวกเขากำลังจะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งนางเอกก็จะไปสนามบิน เพื่อไปตามหานาธานเหมือนกันภาพตัดมาที่ 2 ผัวเมีย ที่แย่งสายรัดข้อมือของนางเอกมาก็มาถึงสนามบิน ก่อนลงรถเขาขู่นาธานว่า ให้ทำตามที่เขาสั่ง ถ้าไม่อยากมีปัญหา จากนั้นก็เดินเข้าไปเพื่อสแกนสายรัดข้อมือ และอ้างว่าสายรัดอีกอันโดนขโมยไป นาธานก็พูดขึ้นมาว่า นี่ไม่ใช่พ่อแม่เขา เขาโดนลักพาตัวมา พอทหารได้ยินแบบนั้น

ก็สแกนสายรัดของข้อมือเมียของลุงนั่น ก็เลยได้รู้ว่านาธานโดนลักพาตัวมาจริงๆ นางเอกที่ตามมาทีหลังก็วิ่งตามหานาธาน ทหารเลยบอกว่าลองมาที่รับรองผู้ป่วยดู โดยมีทหารพาไปดู จนสุดท้ายก็ได้เจอกับนาธาน จากนั้นหมอก็บอกว่า เดี๋ยวจะให้นางเอกกับลูกย้ายไปเต็นท์สำหรับครอบครัว แต่นางเอกก็บอกหมอว่า เธอต้องไปที่บ้านพ่อเธอ หมอก็ใจดี แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวจะหารถไปส่งนางเอกให้ พร้อมกับให้ยาของนาธานไปด้วย

ตัดภาพมาที่พระเอก พระเอกแอบเข้าบ้านคนอื่น แล้วก็พุ่งไปที่ก๊อกน้ำด้วยความกระหาย หลังจากที่ต้องเดินมาทั้งคืน ก่อนที่จะขโมยรถยนต์ แล้วก็ขับไปที่บ้านพ่อของนางเอก พอพระเอกมาถึง ก็ได้เจอกับพ่อของนางเอกกับเพื่อน ที่นั่งเล่นไพ่กันอยู่ พ่อก็บอกว่านางเอกและลูกยังไม่ได้มาที่นี่ จากนั้นไม่นานก็มีเสียงโทรศัพท์โทรเข้ามา เป็นนางเอกเอง ที่โทรให้ไปรับอยู่หน้าปากทาง และสุดท้ายทั้งคู่ก็ได้เจอกัน

GREENLAND

GREENLAND ระหว่างที่อยู่บ้านพ่อนางเอก ก็ได้ดูข่าวมีรายงานว่าดาวหางจะพุ่งชนโลกพรุ่งนี้

และครั้งนี้มันใหญ่พอที่จะทำลาย ทุกสิ่งบนโลกได้เลย และเขายังรายงานอีกว่า ยังมีฐานทัพลับอยู่ใต้ดิน ที่ถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็นที่กรีนแลนด์ ซึ่งเป็นไปตามคำที่คนที่เคยอยู่บนรถได้บอกพระเอกเอาไว้ พระเอกก็ได้เล่าเรื่องเครื่องบินที่บินไปกรีนแลนด์ ให้กับนางเอกฟัง พวกเขาก็เลยตั้งใจที่จะลองเสี่ยงดู ซึ่งมันอยู่ห่างจากบ้านพ่อของนางเอกไปประมาณ 6 ชั่วโมง แต่พ่อของนางเอกไม่ขอไปด้วย เพราะยังไงก็แก่มากแล้ว ขอตายอยู่ที่นี่ดีกว่า

นางเอกก็ร้องไห้เสียใจมาก หลังจากที่ร่ำลากันเสร็จ พระเอกก็ได้ขับรถไปที่แคนาดา พอขับมาได้สักพัก ก็มีรถไฟตกรางขวางถนนจนรถติด ระหว่างที่พระเอกอยู่บนรถ ก็มีวิทยุแจ้งขึ้นมาว่า มีเศษดาวหางตกลงมาบริเวณนี้พอดี พระเอกก็เลยต้องขับรถหนีเศษดาวหางอย่างสุดชีวิต ก็เลยทำให้การเดินทางช้าลงไปอีก ในระหว่างทางมีวิทยุแจ้งเข้ามาอีกว่าดาวหางที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 9 ไมล์ ซึ่งใหญ่กว่าลูกที่พุ่งชนโลกจนทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ และเมื่อมันพุ่งชนโลกจะทำให้ผิวพื้นโลกร้อนถึง 900 องศาเลยทีเดียว ในระหว่างที่ฟังข่าวอยู่นั้น เขาก็ได้เห็นเครื่องบิน บินอยู่เหนือภูเขา

ตอนนี้พระเอกก็ได้ขับรถมาถึงสนามบินแล้ว แต่ดูมืดแล้วก็วังเวงมากๆ ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ที่นี่เลย ด้วยความรีบพระเอกเลยขับฝ่ารั้วเข้าไปเลย พระเอกสังเกตุเห็นเครื่องบินลำหนึ่งกำลังจะออกพอดี ก็เลยขับรถไปขวางทางไว้ จังหวะนั้นนักบินก็ถึงกับหัวเสียเลยทีเดียว เพราะสิ่งที่เขาทำมันอันตรายมากๆ พระเอกก็ถามนักบินว่า พวกเขากำลังจะบินไปที่กรีนแลนใช่ไหม ถ้าใช่ พวกเขาจะขอไปด้วย แต่นักบินไม่ยอมรับ เพราะว่าเครื่องเต็มแล้ว นักบินบอกให้พระเอกรอจนถึงพรุ่งนี้ จะมีเครื่องบินใหม่อีก

แต่พระเอกก็ไม่เชื่อเพราะดาวหางกำลังจะพุ่งชนโลกอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้แล้ว พระเอกก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้ลูกกับเมียของเขาไปด้วยก็ได้ แต่นักบินก็ยังไม่ยอมอยู่ดี พระเอกก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นผมจะไม่ขับรถออกจากรันเวย์ จะไม่มีใครได้ไปไหนเลย สุดท้ายนักบินก็ยอม ให้พวกพระเอกขึ้นเครื่องไปด้วย ตอนที่เครื่องบินกำลังบินขึ้นพระเอกมองไปเห็นรถที่กำลังขับมาที่สนามบินอีกเพียบเลย แล้วก็ดูเหมือนว่าเที่ยวบินที่พระเอกขึ้นคือลำสุดท้ายนั่นเอง

และในระหว่างทาง เศษชิ้นส่วนของคลาร์ก ก็ได้ตกลงมาไม่ห่างจากเครื่องบินของพวกเขา ทำให้เครื่องบินถูกคลื่นกระแทก ทำให้เครื่องบินดับไปแต่นักบินก็พยามประคองเครื่อง จนลงมาถึงพื้นได้สำเร็จ แต่ด้วยความที่พื้นมันไม่เรียบ และเครื่องยนต์ก็เสียหายไปบางส่วนเครื่อง ก็เลยพุ่งไปชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง และหลังจากนั้น จอห์นก็เลยให้ลูกเมียลงจากเครื่องบิน ก่อนที่เขาจะพยายามช่วยนักบินคนหนึ่งออกมา เขาก็เห็นเครื่องบินของกองทัพ ก็ได้ร่อนลงมาจอดบริเวณแถวนั้นพอดี

พระเอกกับพวกลูกเรือที่เหลือ ก็เลยรีบไปก่อนที่เศษดาวหางจะพุ่งมาชนโลกอีก และทหารก็ได้ขับรถมารับพวกเขาทันที ตอนนี้ทุกคนเข้าได้หมดไม่ต้องมีสายรัดข้อมือ หลังจากที่พวกพระเอกเข้าไปได้ไม่นาน ดาวหางก็พุ่งเข้าชนโลก ตอนนี้โลกภายนอกไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง โดนเผาไหม้ราบเป็นหน้ากลอง แต่หลังจากหมอกควันจางหายเป็นเวลา 9 เดือน ทุกคนก็ไม่ได้ออกมาเจอโลกภายนอก และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นโลก หลังจากวันสิ้นโลก โลกที่ทุกคนต้องช่วยกันสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง The End..


เรียบเรียง BOMEBAMB