รีวิว Shazam ฮีโร่สายฮาพาเกรียน สนุกขนาดไหน ? ใครที่ดูจบแล้วต้องตกหลุมรักทันที!

 

รีวิว Shazam หนังแอ็คชั่นคอมเมดี้ เบา ๆ ตลกขนาดไหน หรือมุกจะแป๊กมั้ย ?

ภาพยนตร์ต่างประเทศ ที่เราจะมาพูดถึงกันวันนี้ เป็นเรื่องที่ดูแล้ว คลายเครียดแน่นอนกับ รีวิว Shazam เจ้าเรื่อง Shazam เนี่ยยืนยันนอนยัน ได้เลยว่าเป็น เรื่องที่สนุกมาก และแถมยังพิสูจน์ ให้เห็นว่า หลังจากความสำเร็จ ของบรรดาหนังอย่าง ดูหนังWonder Woman

และ Aquaman นี้อนาคตภาพยนตร์ของ DC นั้นสดใสอย่างแน่นอน และห้ามพลาดเลยกับเรื่องนี้ ดูหนังShang-Chi and The Legend of The Ten Rings ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์ 2021 ที่บอกเลยว่าต้องดูจริง ๆ 

รีวิว Shazam หนังแฟนตาซี ตลกปนฮาเกรียน แบบที่ไม่มีใครเหมือน

รีวิว Shazam

ดู Shazam กดตรงนี้ได้เลย ถ้าพูดถึงตัวเรื่อง หนังShazam แล้วเนี่ยจะเล่าถึง ตัวชาแซมเอง ที่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ผู้ที่คลั่งไคล้ ซูเปอร์ฮีโร่ มาตลอดชีวิตจู่ ๆ ก็มีพลังวิเศษ ต่อสู้กับความชั่วร้าย และทำในสิ่งที่ มนุษย์ธรรมดานั้น ไม่สามารถทำได้

เป็นหนังแฟนตาซี ที่ได้รับความบันเทิง โดยตรงจาก “Shazam!” เนื่องจากผู้กำกับเดวิด เอฟ. แซนด์เบิร์ก ได้วางรูปแบบตัวตนของ “บิ๊ก” ไว้ในจักรวาล ภาพยนตร์ดีซี

ต่อหน้าฮีโร่ และเหล่าวายร้าย ตัวShazam ในเรื่องก็เป็นเรื่อง เกี่ยวกับครอบครัว Billy Batson จาก Asher Angel เป็นตัวสร้างปัญหา ที่ชัดเจนที่สุด ที่คุณพบในภาพยนตร์ ทุกวันนี้ แกล้งตำรวจในฟิลาเดลเฟีย และสร้างความวุ่นวาย ให้กับนักสังคมสงเคราะห์

ต่อมาเขาก็ได้รับ การต้อนรับเข้าสู่ บ้านอุปถัมภ์ โดยพ่อแม่ของโรซา ( มาร์ตา มิลานส์ ) และวิคเตอร์ ( คูเปอร์ แอนดรูว์ ) ซึ่งมีครอบครัวชั่วคราว ที่ช่วยเหลือเกื้อกูล รวมทั้งดาร์ลา ( เฟธ เฮอร์แมน ) ผู้แก่แดด

และยูจีน ( เอียน เฉิน ) ผู้ติดวิดีโอเกม บิลลี่แชร์ห้องกับเฟรดดี้ ( แจ็ค ดีแลน เกลเซอร์ ) ผู้ประชดประชัน ซึ่งเป็นแฟนตัวยงของดีซี และยังมีของ กระจุกกระจิก ของซูเปอร์แมน และแบทแมนด้วย

แม้ว่าจะมีความรัก อยู่รอบตัวเขา แต่เป้าหมายที่ ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Billy ก็คือ การแยกตัวออกมา และตามหาแม่ ผู้ให้กำเนิด ที่ทิ้งเขาไป เมื่อหลายปีก่อน ความเจ็บปวดของ Billy ผสมผสานกับ ความอบอุ่นของ บ้านใหม่ของเขา

เรื่องShazam มีดีอยู่ตรงที่ ตัวหนังเองได้สื่อ ข้อความที่น่ารัก เกี่ยวกับวิธีที่จะเลือก ครอบครัวที่อยู่รอบตัวคุณ ไม่ต่างจาก เรื่อง Shoplifters หนังโรแมนติก ที่ ได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์ของ Hirokazu Kore-eda อีกด้วยนะ

ซูเปอร์ฮีโร่

มาต่อกันที่ พลังพิเศษที่เข้ามา ในชีวิตของบิลลี่ แบบสุ่มนี้ นั่นคือสิ่งที่ ชาแซม ได้รับมาแบบ งงๆ ขณะที่หลบหนี บนรถไฟใต้ดิน จากผู้รังแก ที่เลือกเฟรดดี้ บิลลี่ถูกส่งตัวไปยัง Rock of Eternity ซึ่งเป็นที่ซ่อน ของพ่อมด Shazam ( Djimon Hounsou )

พ่อมดผู้อดทน และเอาจริงเอาจัง อย่างเหลือเชื่อ ได้ถ่ายทอดพลังของเขา ให้กับบิลลี่ เพราะเขาพบว่า บิลลี่คนนี้มี “ จิตใจที่บริสุทธิ์ ” เมื่อ Billy พูดชื่อพ่อมด Billy สามารถเปลี่ยนจาก วัยรุ่นเป็นฮีโร่ ที่ดูคลาสสิก ( Zachary Levi )

ด้วยผ้าสแปนเด็กซ์สีแดง สายฟ้าสว่างบนหน้าอก และเสื้อคลุม ไม่ต้องพูดถึง พลังมากมายที่ Billy สร้างขึ้น ด้วยความช่วยเหลือ ของเฟรดดี้เอง บิลลี่ไม่ได้อยู่คนเดียวแม้ว่า ดร.แธดเดียส ซิวานา ( มาร์ค สตรอง ) ผู้คลั่งไคล้ ได้ค้นพบหนทาง ไปยังถ้ำของพ่อมด โดยไม่ต้องได้รับเชิญ

หลังจากประสบ กับการเลือกแบบสุ่ม ของเขาเอง เมื่อยังเป็นเด็กหนุ่ม ในฉากเปิดเรื่อง ที่น่าทึ่งมาก ซึ่งจบลงด้วย อุบัติเหตุทางรถยนต์ และเขาเกลียดทั้งพี่ชายและพ่อ หลังจากที่สร้าง พอร์ทัลของตัวเอง ขึ้นมาจากอากาศ (หนึ่งในหลาย ๆ ฉากที่เอฟเฟกต์พิเศษ ในที่นี้คือเอซ)

ดร.ศิวานา ปลดปล่อยบาปมหันต์เจ็ดประการ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ วิญญาณทั้งเจ็ด เปลี่ยนจากรูปร่าง คล้ายการ์กอยล์ขนาดใหญ่ ที่เป็นสิ่งชั่วร้ายที่ Dr.Sivana สามารถพกติดตัวไปได้ ในตาขวาของเขา เมื่อเขาพบว่า มีใครบางคน มีพลังคล้ายกับเขา และสงสัยว่า Shazam มี กี่ คน

Shazam มี กี่ คน

Dr.Sivana เริ่มตามล่า Shazam โดยไม่รู้ว่า Shazam เป็นเด็กวัยรุ่นจริง ๆ

เลวีมีบทบาท ที่ซับซ้อนมาก ในการเล่นภาพ ที่แท้จริงของการ พัฒนาที่ถูกจับกุม โดยแสร้งทำ เป็นวัยรุ่นเมื่อใด ก็ตามที่บิลลี่ เปิดใช้งานตัวตนของแซม เขาไม่ได้ดึงออก อย่างแน่นอน

เช่นเดียวกับการแสดงของ Leviที่พยายาม หว่านเสน่ห์ด้วยการ ทำตัวพิเศษเล็กน้อย เมื่อดร.ศิวานา ไปประชุมบริษัท ของครอบครัว ก็จบลงด้วยการหักหัว เมื่อพวกอันธพาลรังแก Freddy ที่โรงเรียน พวกนั้นจะอัดเขา ด้วยรถบรรทุกก่อน แล้วจึงจอดทิ้งไว้ ในที่ที่ผิดกฎหมาย

เมื่อบิลลี่พบว่า กระสุนของเขา อยู่ยงคงกระพัน เขาขอให้โจร ร้านสะดวกซื้อ ยิงแสกหน้าเขา มันเป็นทัศนคติ ที่ทำให้ครึ่งแรก สนุกสนาน อาละวาด และคาดเดาไม่ได้

คาแรกเตอร์เฟรดดี้ ในการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ นี้ก็เหมือนกับ “ Deadpool 2 ” และ “ Spider-Man: Into the Spider-Verse ” ที่ก่อนหน้านี้ มีสคริปต์ที่คาดหวัง จะได้เสียงหัวเราะครั้งใหญ่ จากการทำให้เหล่าฮีโร่ ตระหนักรู้ในตนเอง แต่ก็ได้รับเพียง การหัวเราะเล็กน้อยเท่านั้น พูดง่าย ๆ มุกแป๊ก

สรุปว่าหนัง ซูเปอร์ฮีโร่ ส่วนใหญ่ บางคนได้รับพลังพิเศษ และลงเอยด้วยการ ต่อสู้กับตัวร้าย ที่มีความสามารถคล้ายกัน ถ้าใครเคยดู หนังซูเปอร์ฮีโร่อ่ะนะ แต่เรื่องนี้มันแหวกแนว มาแบบที่มีความกวนความเกรียน

แล้วหลุดความฮา มาสลับแบบดูเพลิน จนลืมเลยว่า อ้าวจบแล้วหรอ ฟิวนี้เลย แต่ถ้ายังไม่เต็มอิ่ม ลองเปลี่ยนแนวมาอ่าน รีวิว Wrath of Man กันได้นะ บอกได้เลยว่าเรื่องนี้ก็ ห้ามพลาดเช่นกัน

-หลงวาริน-